การเลือกใช้ไฟ LED ในการตกแต่งบ้าน อย่างถูกวิธีจะช่วยให้บ้านดูสวยงามและทันสมัย นอกจากนี้การเลือกใช้ไฟ LED นั้นยังมีข้อดีที่โดดเด่นในเรื่องของการประหยัดพลังงาน และอายุการใช้งานที่ยาวนาน มีความปลอดภัย IN101DESIGN ขอนำเสนอวิธีการใช้งานไฟ LED ในการตกแต่งบ้าน พร้อมเคล็ดลับและเทคนิคที่จะใช้งานไฟ LED ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประโยชน์ของการใช้ไฟ LED
1.ประหยัดพลังงาน
ไฟ LED มีความโดดเด่นในเรื่องการประหยัดพลังงานกว่าหลอดไฟประเภทอื่น ๆ เช่น หลอดไส้หรือหลอดฟลูออเรสเซนต์ โดยไฟ LED นั้นสามารถประหยัดไฟได้มากกว่า 80-90% เมื่อเปรียบเทียบกับหลอดไฟทั่วไป
2.อายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า
ไฟ LED นั้นมีอายุการใช้งาน 25,000-50,000 ชั่วโมง ซึ่งมากกว่าหลอดไฟที่เป็นหลอดไส้หรือหลอดฟลูออเรสเซนต์หลายเท่า ทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนหลอดไฟบ่อย ๆ ลดความยุ่งยากในการดูแลและบำรุงรักษา
3.ความปลอดภัยในการใช้งาน
การเลือกใช้ไฟ LED ในการตกแต่งบ้านนั้น มีความปลอดภัยในการใช้งานเนื่องจากไม่มีส่วนประกอบของสารอันตรายอย่างสารปรอท สารเคมีที่พบในหลอดชนิดอื่น อีกทั้งยังไม่ปล่อยความร้อนมากเมื่อมีการใช้งาน ลดต้นเหตุของความเสี่ยงในการเกิดไฟไหม้
4.ความยืดหยุ่นในการใช้งาน
ไฟ LED นั้นสามารถใช้งานได้ทั้งภายในบ้านและนอกบ้านมีหลากหลายรูปแบบ หลายขนาด หลากสีสัน สามารถนำมาใช้ตกแต่งบ้านตามสไตล์ที่ต้องการได้อย่างง่าย
การเลือกชนิดไฟ LED มาตกแต่งบ้าน
1. เลือกประเภทของไฟ LED ให้เหมาะสม
ประเภทของไฟ LED นั้นมีหลากหลายขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งานโดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนั้น
• ไฟ LED ฝังเพดาน (Recessed LED Light) : เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปในห้องต่าง ๆ ให้แสงสว่างโดยทั่วไปในห้อง สามารถติดตั้งได้ใน ห้องครัว ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น
• ไฟ LED แบบติดผนัง (Wall-Mounted LED Light) : เหมาะสำหรับการสร้างบรรยากาศหรือเน้นในจุดที่ต้องการให้แสงเป็นพิเศษ
• ไฟ LED เส้น (LED Strip Lights) : เหมาะสำหรับการตกแต่งบริเวณขอบหรือมุมต่าง ๆ ของห้องเช่น ตามตู้ บริเวณบันได ขอบกระจก
• ไฟ LED หลอดยาว (Tube LED Light) : เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ต้องการแสงสว่างมาก เช่นห้องทำงาน โรงรถ ห้องเก็บของ นิยมนำมาใช้ทดแทนหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์และหลอดตะเกียบ
2.การเลือกสีของไฟ LED
ไฟ LED นั้นนอกจากจะมีความยืดหยุ่นในการใช้งานมีหลากหลายแบบแล้ว ยังมีสีที่เราสามารถเลือกใช้งานได้หลากหลายอีกด้วย
• ไฟสีขาวเย็น (Cool White) : เหมาะสำหรับห้องที่ต้องการความสว่างมาก เช่น ห้องครัว หรือห้องทำงาน
• ไฟสีขาวอบอุ่น (Warm White) : เหมาะสำหรับห้องที่ต้องการบรรยกาศที่อบอุ่น เช่นห้องนั่งเล่น หรือ ห้องนอน
• ไฟสีสันต่าง ๆ (RGB LED) : เหมาะสำหรับการตกแต่งที่ต้องการความหลายหลายสร้างบรรยากาศและจุดดึงดูเป็นพิเศษ เช่นห้องนั่งเล่น หรือ บริเวณ บาร์
3.การจัดวางไฟ LED ให้เหมาะสม
ไฟ LED แต่ละชนิดนั้นต่างมีความสว่างของไฟแตกต่างกันดังนั้นการจัดวางไฟ LED ในบ้านควรพิจารณาถึงการใช้งานและความคิดสร้างสรรค์ของการสร้างบรรยากาศที่ต้องการ เช่น
• การใช้ไฟฝังเพดานในห้องนั่งเล่น : ควรติดตั้งไฟฝังเพดานให้มีความสม่ำเสมอ เนื่องจากระยะที่ไฟ LED แบบฝังเพดานนั้นมีระยะกระจายแสงที่จำกัด หรือ ใช้ไฟเสริมเน้นบริเวณที่ต้องการแสง
• ใช้ไฟ LED แบบเส้นในห้องครัว : ไฟ LED แบบเส้นนั้นมีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูง การปรับรูปแบบของไฟ LED ให้เข้ากับรูปทรงของเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการใช้งานนั้นเป็นจุดเด่นของไฟชนิดนี้ นอกจากจะสร้างความสว่างของห้องให้เพียงพอแล้วยังสามารถใช้ตกแต่งเพื่อความสวยงามได้อีกด้วย
• ไฟติดผนังในห้องนอน : การติดตั้งชนิดไฟ LED ที่สามารถปรับระดับความสว่างของห้องได้ จะสามารถช่วยสร้างบรรยากาศให้เหมาะสมกับการใช้งานห้องและพักผ่อน
เคล็ดลับและเทคนิคการใช้ไฟ LED
1. การใช้ไฟ LED ในการเน้นแสง (Accent Lighting)
เทคนิคนี้เป็นการใช้ไฟ LED เพื่อเน้นความสว่างในจุดต่าง ๆ ที่น่าสนใจหรือเพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับการตกแต่งบ้าน เช่น การใช้ไฟ LED เน้นแสงไปยังวัตถุที่เราต้องการเช่น ภาพวาด งานศิลปะ หรือ การใช้ไฟ LED แบบเส้นเน้นตามขอบตู้
2. การใช้ไฟ LED ในการสร้างบรรยากาศ (Ambient Lighting)
การใช้ไฟ LED นั้นสามารถช่วยสร้างบรรยากาศที่นุ่มนวลและอบอุ่นได้ การเลือกใช้ไฟที่มีสีขาวอบอุ่นหรือไฟสีสันต่าง ๆ เช่นการใช้ไฟ LED สีสันในการตกแต่งห้องนั่งเล่น หรือการใช้ไฟเส้นในการสร้างบรรยากาศในห้องนอน
3. การใช้ไฟ LED ในการใช้งานเฉพาะจุด (Task Lighting)
การใช้ไฟ LED สำหรับการใช้งานเฉพาะจุด เช่นการใช้ไฟในห้องทำงาน หรือ ห้องครัว ที่มีความสว่างเพียงพอปรับระดับความสว่างในการใช้งานได้
4. การใช้ไฟ LED ในการตกแต่งภายนอกบ้าน
ไฟ LED นั้นจัดได้ว่าเป็นไฟที่กำลังไฟค่อนข้างสูงและสว่าง เมื่อเทียบกับหลอดไฟตามปกติ การเลือกใช้ไฟ LED เพื่อให้แสงสว่างภายนอกบ้าน หรือ ใช้ไฟ LED ฝังพื้นบริเวณทางเดิน หรือใช้ไฟ LED แบบเส้นตกแต่งบริเวณทางเดิน ช่วยเพิ่มความสวยงามและความปลอดภัยในการเดินทางในช่วงกลางคืน
การบำรุงรักษาไฟ LED
1. การทำความสะอาดไฟ LED
การใช้ผ้าและน้ำยาทำความสะอาดโคมไฟและหลอดไฟ LED อย่างสม่ำเสมอสามารถรักษาความสว่างและประสิทธิภาพของไฟได้
2.การตรวจสอบและซ่อมแซมไฟ LED
ควรหมั่นตรวจสอบไฟ LED อยู่เสมอหากพบสัญญาณของความเสียหายหรือความเสื่อมสภาพ ควรรีบทำการซ่อมแซมทันที
ตัวอย่างการใช้ไฟ LED ในการตกแต่งบ้าน
1. การใช้ไฟ LED ตกแต่งในห้องนั่งเล่น
ห้องนั่งเล่นนั่นเป็นหนึ่งในห้องที่เป็นหัวใจของบ้าน ใช้สำหรับการพักผ่อนและรับแขก การใช้ไฟ LED ในห้องนั่งเล่นควรเน้นการสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและน่าสบาย ไฟที่ใช้สามารถเป็นไฟฝังเพดานและไฟเสริมเพื่อเน้นในจุดที่ต้องการสร้างบรรยากาศในบริเวณที่ต้องการ และใช้ไฟ LED แบบเส้นสร้างบรรยากาศรอบห้อง
2.การใช้ไฟ LED ในห้องครัว
ห้องครัวเป็นห้องที่จำเป็นต้องมีแสงสว่างเพียงพอในการใช้งาน ไฟ LED ที่ใช้ในห้องครัวแนะนำว่าเป็นไฟฝังเพดานและไฟเส้นใต้ตู้เพื่อให้มีแสงสว่างที่เพียงพอ
3.การใช้ไฟ LED ในห้องนอน
ห้องนอนเป็นห้องที่ผู้อยู่อาศัยใช้สำหรับการพักผ่อน ดังนั้นไฟ LED ที่ใช้ในห้องนี้ควรสร้างบรรยากาศที่นุ่มนวล อบอุ่นเหมาะแก่การพักผ่อนและผ่อนคลาย ปรับระดับความสว่างได้ ไฟ LED ที่เหมาะสมในการใช้ในห้องนี้ได้แก่ไฟเส้นในการสร้างบรรยากาศ ไฟฝังเพดานที่ให้แสงสว่าง
4. การใช้ไฟ LED ในห้องทำงาน
ห้องทำงานเป็นห้องที่มีความจำเป็นต้องมีแสงสว่างให้เพียงพอสำหรับการทำงาน ไฟ LED ที่ใช้ในห้องนี้ควรเป็นไฟที่ใช้ฝังเพดานและไฟตั้งโต๊ะที่มีความสว่างเพียงพอ และปรับความสว่างได้ เพื่อช่วยให้การทำงานทำไปอย่างมีประสิทธิภาพ
5. การใช้ไฟ LED ในห้องน้ำ
ห้องน้ำควรใช้ไฟ LED ที่ฝังเพดาน และติดกระจกเพื่อให้มีแสงสว่างที่เพียงพอ หากอยากสร้างบรรยากาศสามารถใช้ไฟเสริมหรือไฟที่ปรับแสงสว่างได้
การเลือกใช้ไฟ LED ในการตกแต่งบ้าน กับ IN101Design Modern Luxury Interior Design & Construction Full Service
บริษัทรับ ออกแบบตกแต่งภายใน และภายนอก ปรึกษาเรื่องตกแต่งบ้าน รับเหมา ประเมินราคา แบบครบวงจร โดยทีมงานมืออาชีพทีม Interior ประสบการณ์กว่า 10 ปี โดยสามารถติดต่อสอบถามประเมินราคาเบื้องต้น ได้ฟรี ในเวลา 8.00 – 22.00 น. ทุกวัน ผ่านทางช่องทางออนไลน์
• Line : @IN101DESIGN (มี @) หรือ niniiez คลิก : https://lin.ee/QMQNmIj
• โทรศัพท์ คุณเก้า : 081 – 669 – 2963 , 080 – 553 – 3330
..............